พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐาน ณ ประเทศไทย เป็นการชั่วคราว

พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐาน ณ ประเทศไทย เป็นการชั่วคราว

เมื่อวันพุธที่ 4 ธันวาคม 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย พลอากาศเอก พันธ์ภักดี  พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ และคุณมนทิรา  พัฒนกุล นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ ร่วมพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐาน ณ ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว โดยมี นักเรียนนายเรืออากาศ จากโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เป็นผู้ร่วมอัญเชิญในขบวนฯ ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6

เนื่องด้วยรัฐบาลมีมติหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ 2 ในการอัญเชิญมาประดิษฐานยังประเทศไทย โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อปีพุทธศักราช 2545 ณ พุทธมณฑล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหกครั้งที่พระเขี้ยวแก้วประดิษฐานนอกประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

สำหรับ พระเขี้ยวแก้ว ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเพียง 2 องค์บนโลกมนุษย์นี้ ซึ่ง 1 ในนั้นอยู่ที่วัดหลิงกวง วัดเก่าแก่อายุนับ 1,000 ปี ตั้งอยู่ในเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน โดยจะอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่ไทย เป็นเวลา 73 วัน เพื่อแสดงถึงความจริงใจและมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของทั้ง 2 ประเทศ และจะอัญเชิญกลับยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนศาสนิกชนชาวไทยและต่างชาติ มาร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) พระทันตธาตุศักดิ์สิทธิ์จากวัดหลิงกวง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00 - 20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร โดยมีการจัดเตรียมดอกไม้ โปสการ์ด และน้ำดื่มไว้บริการ